ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กันเถอะ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คืออะไร ?คือกลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคหรือคนที่ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก เดิมมีชื่อว่า “กามโรค” (venereal diseases) ในปัจจุบันมีการค้นพบโรคในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” (sexually transmitted infections, STIs) โรคที่สำคัญคือ ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม เริม และเอชพีวี
ตรวจ STD คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ?
STD ย่อมาจาก Sexually transmitted diseases หมายถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (กามโรค) เช่น เอดส์ ซิฟิลิส หนองใน เป็นต้น การตรวจ STD จึงหมายถึงการตรวจหาเชื้อหรือสัญญาณโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะบางโรคใช้เวลานานกว่าจะแสดงอาการ กว่าจะรู้ตัวก็ทำให้เชื้อลุกลามจนรักษายากแล้ว
ตรวจ STD มีประโยชน์ต่อสุขภาพทางเพศทั้งต่อตนเองและผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์หรือปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพทางเพศ เช่น เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน คู่นอนเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถูกข่มขื่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น จึงควรเข้ารับการตรวจ STD อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือตามที่คุณหมอกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคและการพัฒนาของโรคที่อาจรุนแรงขึ้น
ตรวจ STD มีประโยชน์อย่างไร
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Disease หรือ STD) เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Infection หรือ STI) ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อราหรือปรสิต จากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน โดยอาจแพร่กระจายจากคนสู่คนจากการสัมผัสเลือด น้ำอสุจิ หรือของเหลวในช่องคลอดและของเหลวอื่น ๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ เชื้อยังอาจแพร่กระจายได้จากแม่สู่ลูกในครรภ์ได้อีกด้วย
การตรวจ STD จึงเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์ ดังนี้
-ช่วยให้สามารถรู้ตัวได้ทันและได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถช่วยหยุดการแพร่กระจายหรือการพัฒนาของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
-ช่วยป้องกันการติดเชื้อไปสู่คู่รัก
-ช่วยปกป้องภาวะเจริญพันธุ์ เนื่องจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้รับการรักษาเป็นเวลานานอาจนำไปสู่ภาวะมีบุตรยากในอนาคตได้
-ช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ทารกในครรภ์
ใครเสี่ยงที่จะติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ?
คนที่มีกิจกรรมทางเพศบ่อย มีคู่นอนหลายคน อายุน้อย ไม่ใส่ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ เคยมีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในอดีต ดื่มสุรา และใช้สารเสพติด
สามารถติดโรคจากคนที่ไม่มีอาการ ภายนอกดูแข็งแรงปกติ ได้หรือไม่ ?
ในบางระยะของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผู้ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการผิดปกติ ทำให้ไม่ทราบว่าตนเองมีเชื้ออยู่ แต่สามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่คู่นอนได้ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยแม้เพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำให้ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงเชื้อเอชไอวีได้
จะปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อสงสัยว่าอาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ?
เมื่อพบว่ามีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือเพิ่งมีความเสี่ยงในการติดโรค ควรรีบปรึกษาแพทย์ และงดการมีเพศสัมพันธ์ชั่วคราวเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังบุคคลอื่นจนกว่าจะทราบผลการตรวจ ถ้าแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคควรงดการมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าจะได้รับการรักษาจนหาย และแนะนำให้คู่นอนในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เข้ารับการตรวจรักษาด้วย
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รักษาให้หายขาดได้หรือไม่ ?
โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการกินหรือฉีดยาปฏิชีวนะให้ครบตามแพทย์สั่ง และให้ความสำคัญกับการพาคู่นอนมารับการตรวจรักษา ส่วนโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบางชนิดจะอยู่ในร่างกายตลอดชีวิต เช่น เริม การรักษาจะช่วยควบคุมอาการโรคได้ แต่การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น เอชพีวี ร่างกายอาจกำจัดเชื้อได้เอง หากกำจัดไม่ได้เชื้ออาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งในอนาคต